Last updated: 16 Aug 2023 | 7284 Views |
คอลลาเจน คือ โปรตีนโครงสร้างหลักในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน พบมากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งคิดเป็น 25% ถึง 35% ของปริมาณโปรตีนในร่างกายทั้งหมด ส่วนใหญ่จะพบในเอ็นกล้ามเนื้อ ,เอ็น,ผิวหนัง,กระจกตา,กระดูกอ่อน,กระดูก,หลอดเลือด,ทางเดินอาหารและหมอนรองกระดูกสันหลัง
ประเภทของ คอลลาเจน ที่พบในร่างกายมนุษย์มากที่สุด คือ คอลลาเจน ประเภทที่ 1 โดยส่วนมากมักพบได้ในกล้ามเนื้อ กระดูก ผิวหนัง หลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร และข้อต่างๆ ซึ่งคอลลาเจนนั้นเป็นตัวช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังควบคู่ไปกับการช่วยทำหน้าที่ทดแทนผิวหนังที่ตายแล้ว และในส่วนของข้อต่างๆคอลลาเจนทำหน้าที่เหมือนเป็นกาวช่วยให้ต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีปัญหาเกิดขึ้น
คอลลลาเจนที่ดีที่สุด ในตอนนี้มีด้วยกัน 4 ชนิดนั่นก็คือ
คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) เป็นคอลลาเจนที่พบมากในผิวหนัง เส้นผม เล็บ อวัยวะต่าง ๆ กระดูก และเส้นเอ็นถึง 90% จึงเป็นคอลลาเจนที่ดีต่อผิวหนัง เหมาะกับการรับประทานเพื่อความงาม
คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) เป็นคอลลาเจนที่พบมากในกระดูกอ่อนและข้อต่อต่าง ๆ จะช่วยให้กระดูกอ่อนดักการสะสมโปรตีนโอไกลแคน และให้ความทนแรงดึงต่อเนื้อเยื่อ
คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type III) มักพบในเส้นเลือด
คอลลาเจนชนิดที่ 4 (Collagen Type IV) เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบได้เฉพาะบริเวณเส้นใยฝอยของเนื้อเยื่อแผ่นบาง ๆ บริเวณนอกเซลล์
ปลาทะเลจัดเป็นแหล่ง คอลลาเจนจากสัตว์ที่ดีที่สุด เพราะมีปริมาณคอลลาเจนชนิดที่ 1 สูงกว่าและง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเพราะมีโมเลกุลขนาดเล็กที่สุด และมีน้ำหนักเบาที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคอลลาเจนที่สกัดจากสัตว์ชนิดอื่น
คอลลาเจนชนิดที่ 1 ที่ได้จากปลาทะเลยังอุดมไปด้วยกรดอะมีโน ไกลซีน และโพรลีน ซึ่งมีคุณสมบัติสร้างความแข็งแรงให้กับ DNA และ RNA ของร่างกาย และยังช่วยยับยั้งสารพิษ นำส่งอาหารต่างๆไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆเพื่อให้เกิดพลังงานได้ดีขึ้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และป้องกันเซลล์ผิวที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ ทั้งยังกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างคอลลาเจนได้ดี
ปลาทะเลมี คอลลาเจนสูง เกือบทุกชิ้นส่วน แต่ส่วนที่มีคอลลาเจนสูงที่สุดคือ หนังปลา และยังสามารถสกัดได้จาก ครีบ และกระดูกได้ด้วย แต่ส่วนมากนิยมสกัดคอลลาเจนจากหนังปลา เพราะนุ่มกว่าหนังสัตว์อื่น และสามารถสกัดคอลลาเจนได้ง่ายกว่าโดยไม่ต้องใช้ความร้อนหรือเอนไซม์ใดๆ
ข้อดีของคอลลาเจนที่สกัดจากปลา คือ มีปริมาณคอลลาเจนที่สูงกว่าคอลลาเจนที่ได้จากสัตว์อื่น ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าและมีโมเลกุลที่เล็กกว่า ซึ่งหมายความว่า ย่อยง่าย ร่างกายนำไปใช้ได้เร็วกว่าคอลลาเจนจากแหล่งอื่น และเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วกว่า โดยเฉพาะคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์มาแล้ว
ประโยชน์ของคอลลาเจนจากปลา
1. ป้องกันการแก่ก่อนวัย
2. ช่วยให้แผลและการอักเสบหายเร็วขึ้น
3. อุดมไปด้วยคอลลาเจนประเภทที่ 1
4. สามารถป้องกันแบคที่เรียในร่างกายได้
5. รักษาและซ่อมแซมกระดูกและข้อต่อ
1. ดูแหล่งที่มา คอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมจะได้มาจากการสกัดจากสัตว์ต่างๆ สำหรับคอลลาเจนที่ดีที่สุด คือ คอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเล เพราะเป็นคอลลาเจนที่บริสุทธิ์ และช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายได้ดีกว่าแหล่งอื่น แต่สำหรับผู้แพ้อาหารทะเลควรเลือกรับประทานคอลลาเจนจากแหล่งอื่น
2. ดูขนาดโมเลกุล ในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้คอลลาเจนที่สกัดออกมาในรูปแบบของโปรตีนมีขนาดโมเลกุลที่เล็กลงเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือ คอลลาเจนไตรเปปไทด์ หรือ คอลลาเจนเปปไทด์
3. คอลลาเจนควรละลายได้ทั้งใน น้ำเย็น และ น้ำอุณหภูมิปกติ คอลลาเจนที่มาในรูปแบบผงอาจจะมีการเติมแป้งและสารแต่งรสแต่งกลิ่นต่างๆ เพื่อให้รสชาติดีและดื่มง่าย ซึ่งสามารถสังเกตุได้จากคอลลาเจนที่ซื้อมาละลายน้ำได้ยาก คนไปนานๆแต่ก็ยังเป็นตะกอนที่ก้นแก้ว แสดงว่าอาจจะมีแป้งมากกว่าคอลลาเจน
4. คอลลาเจนควรมีส่วนผสมของวิตามินซี เพราะวิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. ตรวจดูวัน เดือน ปี ที่ผลิต ก่อนซื้อหรือก่อนกินอาหารเสริม ควรดูวันหมดอายุ วัน เดือน ปี ที่ผลิต เพราะประสิทธิภาพของอาหารเสริมจะเสื่อมลงตามวันเวลที่ผ่านไปเช่นกัน
วิธีรับประทานคอลลาเจนให้ได้ประโยชน์ที่สุด
1. ดื่มน้ำมากๆ คอลลาเจนนั้นต้องการ การละลายในการดูดซึมเข้าร่างกาย หากร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ - รับประทานวิตามิน ซี วิตามิน ซี มีส่วนช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเราจึงควรบริโภคคอลลาเจนควบคู่กับอาหารที่มีวิตามิน ซี สูง
2. รับประทานขณะท้องว่าง มีงานวิจัยระบุไว้ว่า การเลือกบริโภคคอลลาเจนชนิดเม็ด หรือชนิดน้ำนั้น ควรรับประทานในช่วงเช้าขณะท้องว่างก่อนรับประทานอาหารเช้า 30 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนที่ดีขึ้น ประโยชน์จากคอลลาเจนเยอะกว่าที่คิด :)
3. บำรุงสุขภาพของผิวหนังและเส้นผม
4. ลดอาการเจ็บข้อต่อและการเสื่อมสภาพ
5. ช่วยรักษาลำไส้รั่ว
6. เพิ่มการเผาผลาญ มวลกล้ามเนื้อ และพลังงานที่ได้รับ
7. เสริมความแข็งแรงของเล็บ เส้นผม และฟัน
8. บำรุงตับ
9. ปกป้องสุขภาพของหัวใจและระบบหลอดเลือด
สรุป เมื่อมนุษย์มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จะสูญเสียคอลลาเจนปีละ 1.5% ของคอลลาเจนที่มีอยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังมีริ้วรอย หย่อนคล้อย และเหี่ยวย่น รวมถึงการทำให้ข้อต่อหรือกระดูกต่างๆเริ่มมีปัญหา หรือเกิดการเสื่อมของร่างกาย ในปัจจุบันจึงมีเทคโนโลยีต่างๆเพื่อช่วยป้องกันการเสื่อของร่างกายให้เกิดช้าลง และการรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำมีส่วนช่วยให้คงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนาน ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น มีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรง ทั้งยังมีส่วนช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด รวมไปถึงมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบและต่อต้านเชื้อแบคที่เรียได้ดี การรับประทานคอลลาเจนจึงเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนยังคงความอ่อนเยาว์ แข็งแรง และดูดีอยู่เสมอ
แนะนำ คอลลาเจนที่ดีที่สุด ของ บริ๊งค์ คอลลาเจน บริ๊งค์ คอลลาเจน แบรนด์ยอดนิยมของไทย อันดับ 1 ติดต่อกัน 11 ปีซ้อน รับรองโดยนิตยสาร BrendAge
คอลลาเจนชนิดน้ำ
บริ๊งค์ คอลลาเจน เปปไทด์ 6,000 มก. << ขายดี
บริ๊งค์ คอลลาเจน เปปไทด์ 4,000 มก. << แนะนำ
คอลลาเจนชนิดผงชง
บริ๊งค์ เพียว คอลลาเจน เปปไทด์ 100,000 มก. << ขายดี
บริ๊งค์ คอลลาเจน เปปไทด์ 6,000 มก. << แนะนำ
บริ๊งค์ คอลลาเจน เปปไทด์ 4,000 มก.
บริ๊งค์ คอลลาเจน เปปไทด์ 2,000 มก.
คอลลาเจนชนิดแคปซูล
บริ๊งค์ คอลลาเจน เปปไทด์ 6,000 มก. << แนะนำ
คอลลาเจน "Shake Shake"
บริ๊งค์ เชค เชค คอลลาเจน เปปไทด์ 2,000 มก. กลิ่นสตรอเบอร์รี่ << ขายดี
บริ๊งค์ เชค เชค เพียว คอลลาเจน เปปไทด์ 2,000 มก.
เลือกซื้อบริ๊งค์ คอลลาเจน ได้ที่
Shopee
Lazada
แอด Line@ (@blink)
Facebook
บทความเกี่ยวกับ คอลลาเจน
✨คอลลาเจนทานตอนไหนดี
✨คอลลาเจน โปรตีนแห่งความอ่อนเยาว์
✨10 ประโยชน์ของคอลลาเจน
6 Apr 2020